วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รัก "ไม่" แรกพบ

ประเทศฝรั่งเศส   เป็นประเทศที่ีสวยงาม มีอารยธรรม วัฒนธรรม ผู้คนที่เป็นมิตร เป็นประเทศที่สงบ น่าอยู่ และน่าไปท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของหลาย ๆ คน ที่จะได้ไปเยือน เมืองน้ำหอม สักครั้ง (ฉันก่อเป็นคนหนึ่งฝันจะไปฝรั่งเศส) ฝรั่งเศสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ เช่น หอไอเฟล(Eiffel) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre museum) พระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe) ฯลฯ แต่ ละที่ ที่เอ่ยมาน่าสนใจทั้งนั้น แต่การจะไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ทุนทรัพย์สูง และเรื่องวิช่า พูดมาแล้วก่อเริ่มถ่อดใจ คงเป็นได้แค่ฝัน แล้วจะทำไงก่อคนไม่มีเงิน จน วันหนึ่งฉันก่อมีความคิดที่จะอยากได้ชายฝรั่งเศส มาเป็นผู้นำทาง และคู่ชีวิต แล้วมันจะเป็นไรเมื่อสไตร์ การชอบของคนเรามันไม่เหมือนกัน แล้วเราจะหาฝรั่ง ได้ที่ใหน แล้วเขาจะเป็นคนดีอย่างที่เราต้องการมั่ย ปัญหาต่าง ๆๆ และคำถามมากมายเริ่มผุดขึ้นมาในหััว คิด คิด ๆๆ แต่แล้ววันหนึ่งคำถามเหล่านั้นก่อเริ่มมีคำตอบ เรามีสมอง เรามีความรู้ ความคิด เรามีมือ แล้วภาษาก่อพอได้ ถึงจะไม่เก่งแต่ก่อพ่อ ดำน้ำไปได้ 555 และที่สำคัญ โลกอินเทอร์เน็ต ไม่เคยมีเส้นจำกัด และเส้นแบ่งแยก ทุกคนสามารถติดต่อกันได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนใหนของโลกใบนี้ เมื่อเกิดความคิดที่ดีมากมาย แล้วก่อเริ่มลงมือทำเลย ฉันเริ่มลองหาข้อมูลบน Google โดยการใช้คำพวกนี้เป็นตัวช่วย แฟนฝรั่ง หาฝรั่ง ทำอย่างไรให้ได้ฝรั่ง และอีกมากมาย แล้วก่อไปเจอเว็บไซต์อยู่หนึ่่่่่่่่่่ง ชื่อว่า  www.Thailovelink.com  ซึ่งเป็นเว็บจัดหาคู่ สำคํญคือ "ฟรีไม่มีค่าใ้ช้จ่าย" สามารถเลือก นิสัย หน้าตาความหล่อ อายุ และประเทศ ฉันก่อต้องเลือกชายฝรั่งเศสสิ ถึงจะได้ไปฝรั่งเศส ฉันใช่เวลาในการเล่น Thailovelink อยู่นาน ประมาณ 4 เดือน พบผู้คนมากมายที่เข้ามาคุยด้วย มีทั้งฝรั่งเศส และ ประเทศอื่น ๆๆ แต่ฉันก่อไม่พบคนที่ต้องการ ฉัน ก่อคิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนภาษา และประสบการ์ต่าง ๆๆ ส่วนมากเรื่องที่คุยก็ จะเป็นเรื่องในประเทศไทย นำเสนอสถานท่องเที่ยว ที่ไทย เพื่อให้เขาอยากมาเมืองไทย และมาหาเราด้วย อิอิ  แต่แล้วก่อคุยได้ไม่นาน เพราะไม่ใช่ผู้ชายในสเปก จนเราเริ่มเกิดอาการที่เบื่อที่จะเล่น นานก็เลยเข้าไปเล่นที่ี่หนึ่ง                                                                                                                                                                                                   

จนเข้าเดือนที่สาม เดือนมกราคม 2553 เกิดอาการเซงเบื่อไม่รู้จะทำไร ก่อเลย เข้าไปดู เล่นไปได้สัก 3-4 ช.ม. เหมือนพระเจ้าเริ่มจะมองเห็นความพยายยามของเราแล้วหลังจากที่เล่นมานาน มีผู้ชายมาทัก เรา เป็นชายฝรั่งเศส เย้ เย้ หน้าก็พอใช้ นิสัยก่อพอคบด้วย (จากการอ่านประวัติ) ก็เลยลองคุยด้วย ตอนแรกก่อเฉย ๆ เพราะปากจัดมาก แต่คุยมาเรื่อย มีทั้งด่ากันบ้าง คุยดีกันบ้าง มีอะไรก่อจะมาเล่าให้ฟัง แต่เราก่อไม่ได้คุยกับเขาคนเดียวนะ เราคุยกับผู้ชายต่างชาติอีกหลายคน (เผื่อเลือก แฮ แฮ) แต่ก่อเริ่มแพ้ความจริงใจของผู้ชายคนนี้ จนเรารู้สึกอ่ิอนใหว แต่เขาก่อไม่ตรงตามที่เราต้องการ เพราะเขาแก่กว่าเรามาก เราอายุแค่ 23 เขา 39 ซึ่งเยอะมาก จนเกิดคำถามถ้าเราคบไปจะนิสัยเข้ากันได้หรอ  ก็คุยกันมาจนเข้าเดือนที่สาม จนเขาบอกว่าเขาจะมาหาเราที่ไทย เราไม่ได้คิดจริง เพราะคุยกันมาสามเดือนด่ากันเยอะกว่าคุยดี เราก็ถามเขาว่าจะมาเมื่อไร เขาบอกว่า"เดือนเมษายนนี้ "  เราคิดในใจทันทีคุยมาก่อสามเดือนแล้ว แล้วยังจะมาบอกเมษายนนี้แน่จะมาหา " โกหกเราแน่เลย" และก่อเป็นอย่างที่เราคิดพอเดือนเมษายน เขาบอกว่า มาไม่ได้เพราะติดงาน ซึ่งทำให้เรารู้สึก "ผิดหวังนิด ๆๆ" จนเราเริ่มที่จะไม่คุยด้วย สี่เดือนที่คุยก็เริ่มจะเบื่อแล้ว แต่เราก่อคุยกับชายอื่นด้วย


จนเวลาผ่านไปเขาสู่เดือนที่ห้า  เราไม่ได้คุยอะไรกับชายฝรั่งเศสมากเหมือนแต่ก่อน ทั้งปิดคอมหนี เบื่อที่จะเห็นหน้า โทรมาก็ให้แม่รับสายแทน เพราะยังไงก็คุยกันไม่รู้เรื่อง (ลืมบอกไปเราใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกัน ) แต่เขาก่อไม่ยอมละทิ้งความพยายยามของเขาที่จะตื้อเรา "ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก " ซึ่งเป็นลูกไม้ตืน ๆ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ใช่กัน จนวันหนึ่งเราได้เห็น   E-mail ฉบับหนึ่งจากชายคนนั้น เขาบอกว่า "เดือนมิถุนายน 2553 จะลงมาที่ไทย" แล้วไงก็คงเป็นเหมือนเดิม เราเริ่มชินกับคำ โกหก เพราะเราเคยผิดหวังมาก่อน  เราถามเขาว่า "ถ้าคุณมาจริง ฉันต้องการดูตั๋วเครื่องบิน" เขาก็ไม่รีรออะรีบแสดงตั๋วเครื่องบินทันที  เมื่อเราเห็นตั๋วเครื่องบน เราก็เริ่มใจอ่อนอีกครั้ง แต่ยังไม่สะทีเดียว  สามเดือนที่แล้วที่คุยกันก็โกหก แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไร  


ก้าวเข้าสู่เดือนที่ หก มิถุนายน 2553  วันนี้เป็นวันที่เรารอมานาน ชายฝรั่งเศสเขาบอกว่าจะมาหาเรา หกเดือนกับการคุยกันอย่างไม่มีความสุข ด่ากันบ้าง ทะเลาะกัน ก็บ่อย แถมยังโกหกเราอีก (อันนี้แรง ) แต่มันก็ยังเกิดเป็นความรักได้  ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงของประเทศไทย เรายังคงไม่ทำอะไร นอกจากการเลือกชุดที่จะใส่ไปสนามบินเพราะไม่รู้จะเอาชุดใหน มันตื่นเต้น ใจมันตุบ ตุบ ๆ ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็นอย่างนี้ แม่เราก็เป็นไปด้วย รีบอาบน้ำ แต่งตัวรอแต่หัววัน (จะไปรับเขยฝรั่งที่สนามบิน )   เวลา 18.30 เป็นเวลาที่เครื่องบินจะลงจอด   แต่เวลา  16.00 เราและทุกคน ครอบครัว มาถึงสนามบิน (เฮ่อ ไปใหม มาแต่หัววันเลย ) ใจเราก็ยังตื่นเต้นไม่หยุด ยิ่งเข้าใกล้เวลาก็ยิ่งเต้นแรง เหมือนลุ้น รางวัลที่หนึ่งเลย  แต่มันก็มีคำถามมากมายเกิดขึ้นมาในหัวสมอง จนยากที่จะหาคำตอบ เขาเป็นชายฝรั่งเศส เราเป็นไทย จะเข้ากับเราได้ใหม  จะดีกับเราใหม  ครอบครัวเราเห็นแล้วจะรู้สึกยังไง จะดีใจหรือ เสียใจ  เขาจะมีหน้าตาเป็นยังไงเหมือนใน MSN หรือป่าว  เพราะเราเคยเห็นแต่ใน MSN และสถานการณ์ก็ไม่เหมือนกันคิดแล้วก็ปวดหัว  เราตื่นเต้นจนตัวเย็นไปหมด  

 เวลา 18.30  เอาแล้วสิ เวลานี้ก็มาถึง เป็นเวลาที่เครื่องบินลงจอด ยิ่งทำให้ใจเต้นแรงมากขึ้น ลุ้นนตลอดเวลาว่าเขาจะมาหรือป่าว  เราเดินไปค่อยชายฝรั่งเศส ที่บริเวณข้าเข้าประเทศ และค่อยมองเขาอย่างใจจดใจจอ คนอื่นๆก็เป็นแบบเรา ถามเราว่าใช่ คนนี้มัย คนนั้นมัย  ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนมีแต่เราคนเดียวที่เห็นทาง MSN แต่ความตื้นเต้นมันทำให้เหลือภาพในสมองแค่ลาง ๆๆ  เวลา 19.30 เวลาผ่านไปหนึ่งชั่งโมง เราก็ยังไม่เห็นชายคนนั้น  ซึ่งฝรั่งคนอื่นที่มาสายการบินเดียวกับเขาเดินออกมาจากประตูข้าเข้าก็เยอะแล้ว แล้วทำไมเราไม่เห็นอีก หรือจะโกหกเราอีก เพราะทุกคนก็ถามว่าทำไมยังไม่เห็น (ถ้าครั้งนี้เป็นการโกหกครั้งที่สอง ฉันจะเกียจไอ้ผู้ชายคนนี้มาก) ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หมายเลขปลายทางเป็นหมายเลขของฝรั่งเศส เราก็รีบรับทั้นที  "เขาบอกว่ามีปัญหา" เรายังฟังไม่ทันจบ ก็ด่าเขาเป็นชุด จะมาโกหกฉันอีกหรอ ฉันกับครอบครัวอุตสามาคอยคุณ แต่แล้วเขาก็บอกว่าฟังก่อน เขามาถึงแล้วแต่มีปัญหาเรื่องวิช่า ตอนนี้รอตรวจอยู่ในสนามบิน  ซึ่งมันทำให้เราดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับแม่ทันทีว่าเขามาแล้ว 


วลาผ่านไปสักพักหนึ่งเราเริ่มเห็นชายคนหนึ่งหน้าตาคล้ายกับคนที่เราคุยใน MSN   มันทำให้เราดีใจมาก จนต้องวิ่งเข้าไปดูใกล้เพื่อให้แน่ใจ  เราวิ่งไปอย่างเร็ว และเมื่อเขาเห็นเรา เขาก็วิ่งมาอย่างเร็วเช่นกัน ต่างคนต่างแน่ใจว่าใช้ แล้วละ เรากระโดดกอดเข้าอย่างแน่น ด้วยความดีใจ  และญาติเราก็เข้ามาแสดงความดีใจกับเรา แล้วมอบดอกไม้ให้ชายฝรั่งเศสเป็นการต้อนรับ

จบลงสักทีกับการรอคอย จากวันแรกจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 ปีที่เราคุยกันมา ผ่านอะไรหลายอย่างมาด้วยกัน มีทั้ง สุข และเศร้า เรียนรู้กันและกัน และหลังจากนี้มันก็คงเป็นเวลาที่เราจะเรียนรู้กันอย่างจริงจัง เพื่อจะแต่งงานและสร้างครอบครัวเขาเรา 

"""ขอขอบคุณ www.Thailovelink.com ที่ทำให้เราได้มาเจอกัน
""""" ขอขอบคุณญาติพี่น้องทุกคนที่มาในงานแต่งงานของเรา 
"""""""" และเร็วนี้ พบกับ ชีวิตที่ "ไม่" สบายในฝรั่งเศส หวังว่าทุกคนคงติดตาม